ช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง เพื่อนๆ ที่มีแพลนจะเก็บกระเป๋าเดินทางเตรียมไปท่องเที่ยว แต่ยังไม่รู้จะไปไหนดี วันนี้แอดมินขอเสนอสถานที่เที่ยวติดชายแดนไทย-เมียร์ม่า แหล่งรวมวัฒนธรรมหลายเชื้อชาติ ไม่ว่าจะเป็น ไทย กระเหรี่ยง มอญ และเมียร์ม่า พร้อมทั้งล่องเรือเที่ยวชมวิวกราบไหว้วัดเมืองบาดาลในสมัยอดีต นั้นคือเมืองสังขละบุรีนั้นเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอำเภอที่ตั้งอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรี ห่างจากตัวจังหวัด 219 โล ถ้าเพื่อนๆ พร้อมแล้วไปทำความรู้จักกับวัดดังแหล่งเมืองบาดาลสังขละบุรีกันเลย
ล่องเรือชมวัดเก่า เมืองบาดาลสังขละบุรี
เมืองบาดาลสังขละบุรี หรือคนในชุมชนเรียกว่าสังขละเก่า เป็นที่ตั้งในอดีตของอำเภอสังขละบุรี จนถึงปี พ.ศ. 2522 ได้มีการสร้างเขื่อนเขาแหลม หรือในปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น เขื่อนวชิราลงกรณ ทำให้เริ่มมีการอพยพขึ้นที่สูง โดยมี กฟผ. หรือการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย เป็นผู้จัดสรรรพื้นที่ ให้ชาวบ้านได้อยู่อาศัยพร้อมที่ทำกิน และสถานที่สำคัญทางราชการแห่งใหม่ ซึ่งในปี พ.ศ.2527 เขี่อนเขาแหลมถูกสร้างเสร็จทำให้ปริมาณน้ำได้ท่วมสูงขึ้น ที่ทำกินและสิ่งก่อสร้างต่างๆ รวมถึงวัดดังในอดีตก็ได้จมลงใต้น้ำ กลายเป็นเมืองบาดาลจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งจะโผล่ขึ้นจากน้ำในทุกช่วงเดือนมกราคมจนถึงเมษายนจนสามารถลงไปเดินชมวัดได้ ในการเดินทางจะต้องนั่งเรือไป ซึ่งมีเรือให้บริการอยู่ด้านล่างสะพานมอญ ค่าบริการเป็นแบบเช่าเหมาลำ ไปวัดเดียว ค่าบริการ 300 บาท ถ้าไปครบ 3 วัด ค่าบริการ 500 บาท ถ้าขึ้นเรือแล้วสามารถล่องเรือเที่ยวเมืองบาดาลกับ 3 วัดเก่าต่อไปนี้
- วัดวังวิเวการามเก่า
(รูป)
เริ่มจากวัดแรกที่เรือจะจอด นั้นคือวัดวังวิเวการามเก่าหรือวัดหลวงพ่ออุตตมะเก่า สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2496 บริเวณหน้าวัดถูกเรียกว่าสามประสบเป็นจุดที่แม่น้ำ 3 สายในสังขละบุรี ได้แก่ แม่น้ำบีคลี่ แม่น้ำซองกาเลีย และแม่น้ำรันตี ไหลมาบรรจบกันเป็นแม่น้ำสามประสบไหลผ่านลงไป จนปี พ.ศ. 2522 ได้รื้อส่วนที่เป็นไม้อพยพไปยังพื้นที่ใหม่ ปัจจุบันจึงเหลือแค่เพียงโบสถ์ กุฏิ และหอระฆังที่สร้างจากอิฐเท่านั้น ในช่วงหน้าฝนน้ำจะท่วมเกือบมิดโบสถ์จะเหลือเพียงหอระฆังที่ยังเห็นได้ชัด และวัดจะโผล่ขึ้นเหนือน้ำในช่วงเดือนมกราคมจนถึงเมษายน สำหรับเพื่อนๆ ที่มาถึงวัดนี้แล้วสามารถเข้าไปกราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์พระพุทธรูปที่ประดิษฐานอยู่ในโอสถ์เพื่อเป็นสิริมงคลได้เลย
- วัดสมเด็จเก่า
(รูป)
วัดถัดมาที่เรือจะจอดคือ วัดสมเด็จเก่า เป็นเพียงวัดเดียวที่ไม่จมน้ำเพราะตั้งอยู่บนเขา แต่เพราะน้ำท่วมจากการสร้างเขื่อนทำให้ไม่สามารถสัญจรได้เหมือนในอดีตจึงจำเป็นต้องรื้อกุฏิ ย้ายมาสร้างวัดใหม่ที่อำเภอสังขละบุรีในปัจจุบัน เพื่อนๆ สามารถเดินขึ้นเนินเขาประมาณ 100 เมตร จะเจอกับทางเดินบันไดขึ้นวัด บริเวณนั้นจะมีดอกไม้จำหน่าย ให้ท่านได้ขึ้นไปกราบไหว้พระพุทธรูปที่ประดิษฐานในโบสถ์ และรอบๆ โบสถ์จะเป็นป่าไผ่ล้อมรอบทำให้มีความร่มเย็น อากาศไม่ร้อน
- วัดศรีสุวรรณคีรีเก่า
(รูป)
วัดสุดท้ายที่ได้ล่องเรือเที่ยวก่อนกลับขึ้นฝั่ง นั้นคือ วัดศรีสุวรรณคีรีเก่า หรือวัดศรีเก่า เป็นวัดของชาวกระเหรี่ยงในสมัยสังขละเก่า ซึ่งชื่อของวัดตั้งมาจากชื่อของพระศรีสุวรรณคีรีนายอำเภอคนแรกของอำเภอสังขละบุรี จนถึงปี พ.ศ. 2522 ได้อพยพขึ้นมาตั้งอยู่บนพื้นที่จัดสรร เหลือเพียงโบสถ์ที่ถูกน้ำท่วมจมอยู่ใต้น้ำ เพราะตั้งอยู่ในที่ราบต่ำ บางปีที่น้ำลดน้อยไม่สามารถลงไปเดินได้ เห็นเพียงยอดโบสถ์ แต่ถ้าปีที่อากาศร้อนมากน้ำก็จะลดจนสามารถลงไปเดินกราบไว้พระพุทธรูปที่อยู่ในโบสถ์ได้
สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากเดินทางมาชมเมืองสังขละบุรีเก่า สามารถเดินทางได้ทั้งรถโดยสารประจำทางอย่างรถตู้ปรับอากาศจาก บขส.กาญจนบุรีมาสุดท่ารถสังขละบุรี ค่ารถอยู่ที่ 175 บาท เมื่อมาถึงสังขละบุรีแล้วก็จะมีรถมอเตอร์ไซต์รับจ้างให้บริการรับส่งไปที่พัก หรือจะเช่ารถมอเตอร์ไซต์ที่ท่ารถตู้ได้เลย ค่าบริการวันละ 200 บาท ถือว่าไม่แพงแถมได้ขับรถเที่ยวรอบเมือง ในครั้งหน้าแอดมินจะนำเสนอที่พักในอำเภอสังขละบุรีอย่าลืมติดตามกันนะเพื่อนๆ